แพทย์ไทยร่วมทีม ผลงานวิจัยนานาชาติชี้ “ไคโตซาน“ สารสกัดธรรมชาติทางเลือกใหม่ เสริมการงอกของเส้นผม ผลลัพธ์เทียบ Minoxidil 5%
ปัญหาผมร่วง ผมบาง เป็นเรื่องที่หลายคนกังวล โดยเฉพาะภาวะ ผมร่วงแบบพันธุกรรม (Androgenetic alopecia) และ ผมร่วงกระจาย (Diffuse hair loss) ซึ่งพบได้บ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ประมาณ 50% ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ปัจจุบันการรักษามาตรฐานที่นิยมคือ ไมนอกซิดิล ( minoxidil ) และ ฟิแนสเตอไรด์ (finasteride ) แต่ก็มีผู้ที่ตอบสนองต่อการรักษาไม่เท่ากัน และมีข้อจำกัด เช่น ผลข้างเคียงต่อระบบร่างกาย และการตอบสนองที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ทำให้เกิดความสนใจในทางเลือกอื่น ๆ ที่ไม่พึ่งฮอร์โมนเพิ่มมากขึ้น
ล่าสุดทีมนักวิจัยจากนานาชาติ ได้ร่วมกันศึกษาประสิทธิภาพของ ไคโตซาน (Chitosan) สารสกัดจากธรรมชาติจากพืช ที่มีคุณสมบัติที่สามารถนำมาใช้เสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม
การวิจัยครั้งนี้จัดทำโดยคณะแพทย์จากหลายสถาบันในประเทศเกาหลีใต้ ประเทศไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งหนึ่งในคณะแพทย์ผู้ร่วมวิจัยคือ พญ.นิล นามทองต้น แพทย์ปลูกผม จาก นามนิน คลินิก ประเทศไทย ซึ่งได้เข้าร่วมออกแบบและวิเคราะห์ผลการศึกษา
ผลลัพธ์จากการศึกษานี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาทางเลือกการรักษาผมร่วงรูปแบบใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน
การใช้ไคโตซานอาจมี ข้อได้เปรียบที่สำคัญ ได้แก่
• การดูดซึมเข้าสู่ระบบร่างกายน้อยมาก (minimal systemic absorption)
• ไม่มีผลต่อฮอร์โมน (absence of hormonal effects)
แสดงให้เห็นถึง ความปลอดภัยที่ดีและการตอบสนองทางคลินิกในระยะแรก จากการใช้บนหนังศีรษะของมนุษย์ สามารถเพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม, จำนวนของเส้นผม และความพึงพอใจของผู้ป่วยได้ โดยไม่พบผลข้างเคียงใด ๆ ระหว่างการศึกษา
นอกจากนี้ วรรณกรรมทางการแพทย์ก่อนหน้านี้ที่ศึกษา ผลิตภัณฑ์ไคโตซานทาผิวหนัง ยังสนับสนุนว่า ความเข้มข้น สูงสุดถึง 2% สามารถใช้ได้อย่าง ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ในการเร่งการสมานแผลและการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ
ผลการศึกษานี้สนับสนุนว่า ไคโตซาน โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับไมโครนีดเดิล อาจเป็นทางเลือกที่ไม่ใช้ฮอร์โมน (non-hormonal alternative) เป็นแนวทางการรักษาใหม่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการฟื้นฟูเส้นผม
รายละเอียดงานวิจัยฉบับเต็ม